[Fic NGNL]ค่ำคืนเเห่งความสุขที่หวนคืน
สเตฟานี่ โดระ ต้องตกใจเมื่ออยู่ดีๆพวกชิโระขังตัวเองอยู่ใจห้อง จิบริลที่ปกติไม่เคยห่างมาสเตอร์กลับจะพาเธอออกไปเที่ยว! นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันเเน่
ผู้เข้าชมรวม
1,144
ผู้เข้าชมเดือนนี้
1
ผู้เข้าชมรวม
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
“พวกคุณคิดจะทำอะไรกันคะ!”
เสียงตะโกนดังออกมาจากห้องครัวในปราสาทหลังใหญ่ ข้าวของเครื่องใช้มากมายที่เคยถูกวางไว้อย่างเป็นระเบียบบัดนี้ได้กลายเป็นสนามรบขนาดย่อมแล้ว ถัดไปนั้นปรากฏร่างของเด็กสาววัยสิบแปดปี ผมสีแดงเลือดหมูตัดซอยสั้น ชุดที่เธอสวมใส่เหมือนชุดของชนชั้นสูง ใบหน้าที่เคยสดใสอยู่ตลอดเวลา เมื่อมาเจอเหตุการณ์นี้ ก็ได้เปลี่ยนเป็นบูดบึ้งเหมือนมังกรเวลาโกรธไม่มีผิด
“สเต็ฟ อย่าเครียดสิพวกเราแค่เล่นเกมกันเองเนอะ มายลิตเติ้ลซิสเตอร์” ชายหนุ่มที่มีอายุไล่เลี่ยกัน และเป็นต้นเหตุที่ทำให้ห้องครัวรกตอบกลับอย่างไม่ใส่ใจ เขามีผมสีน้ำตาลแดงและสวมเสื้อแขนสั้นสีเหลืองที่เขียนว่า ‘ฉันรักมนุษย์’ ข้างเขาก็คือเด็กสาวน่ารักวัยสิบเอ็ดปีที่มีผมสีขาวอมเทายาวถึงเอว ดวงตาสีแดงเป็นประกายและสวมชุดกะลาสีของนักเรียนประถม เธอยิ้มน้อยๆเมื่อ พี่ชาย เรียกตัวเอง แต่เด็กสาวที่ชื่อว่า สเตฟานี่ โดระ ไม่ได้สนใจมิตรภาพระหว่างพี่น้องที่แสนจะซาบซึ้ง ที่เธอสนก็มีเพียงแค่ห้องครัวที่มีสภาพดูไม่ได้เท่านั้น!
“ฉะ ฉันไม่ได้เครียดค่ะ แค่กำลังโมโหที่คุณโซระกับคุณชิโระทำห้องรกต่างหากค่ะ!”
“พี่ ทำไมวันนี้สเต็ฟดูร่าเริ่งมากกว่าปกติ”
เด็กสาวผมสีขาวที่มีนามว่า ชิโระ เอ่ยถามพี่ชาย แต่คำตอบที่ได้รับกลับมาคือความเงียบโซระเอาแต่จ้องสเตฟอย่างไม่ละสายตา แต่ไม่นานก็เผลอยิ้มชั่วร้าย แล้วเอามือมาลูบหัวน้องสาว ชิโระที่กำลังงงอยู่ก็เริ่มประติดประต่อเรื่องราวได้จากสายตาของพี่ชาย
“เข้าใจแล้วรึยังน้องสาวเอ๋ย ถ้าเป็นเรื่องการ อ่านความรู้สึกของมนุษย์ เธอเทียบพี่ไม่ได้เลยนะ”
“ชิโระจะพยายามให้มากกว่านี้” ชิโระเอ่ยกับโซระ หลังจากนั้นพวกเขาก็ไล่สเต็ฟออกไปจากห้องครัวโดยที่คนที่โดนไล่นั้นไม่สามารถรู้ได้เลยว่าสองพี่น้องต่างโลกนั้นคิดจะทำอะไรกันแน่ แล้วทำไมต้องใช้ห้องครัวแถมยังมีเสียงโครมครามดังออกมาอีก! สเต็ฟก็เลยไว้อาลัยให้ห้องครัวอย่างเงียบๆ
“เฮ้อ วันนี้ไม่มีงานเอกสารด้วยสิ สองคนนั้นก็ทำอะไรไม่รู้เสียงดังขนาดนั้นคงไม่ได้วางระเบิด ห้องครัวของฉันนะคะ อยากรู้จังว่าพวกเขาทำอะไรเห็นโซระจ้องฉันด้วย อย่าบอกนะว่าโซระจะทำอะไรเพื่อฉัน ไม่ได้นะจะมีความคิดแบบนี้ไม่ได้ คนอย่างสเตฟานี่ โดระ ห้ามไปสนใจคนแบบนั้นเด็ดขาด แต่ใบหน้าของโซระในตอนนั้นดูราวกับเทพบุตรก็ไม่ปาน ไม่ได้นะห้ามคิดเรืองแบบนี้!!”
สเต็ฟที่คัดค้านหัวใจตัวเองก็เอาหัวไปโขกกับกำแพงจนเกือบจะพัง ถ้าไม่มีคนรับใช้มาห้ามไว้กำแพงก็คงพังไปหลายจุดแน่ สเต็ฟคิด แต่ว่าตอนนี้ช่างน่าเบื่อเหลือเกินไม่มีใครให้คุยด้วยเลยหรือ
“เอ๊ะ จะว่าไปก็มีอยู่อีกคน แต่ว่าคงอยู่ที่ห้องหนังสืออีกแล้วสิ”
สเตฟานี่ โดระเดินมาที่หน้าประตูห้องหนังสือส่วนตัวของเธอ แต่ยังไม่ได้เปิดเข้าไป ประตูก็เปิดออกก่อนตามมาด้วยร่างของเด็กสาวผมสีชมพูอ่อนมีตาสีอำพัน สวมชุดแฟนตาซี ด้านหลังของเธอปรากฏปีกสีขาวและดำ แต่ที่แปลกไปกว่านั้นก็คือ เธอสามารถลอยได้! แต่เรื่องนี้เป็นเรื่องปกติของสเตฟานี่ โดระ เพราะว่าบุคคลที่อยู่ด้านหน้าเธอเป็นคนของเผ่าเอ็กซี้ดลำดับที่ 6 ซึ่งก็คือ เผ่าปีกสวรรค์ หรือ ฟลูเกล ผู้ที่เปรียบเหมือนยมทูตนั้นเอง แต่ว่าถึงจะน่าเกรงขามขนาดไหนเธอก็ไม่กลัว เพราะนิสัยของร่างข้างหน้า…
“คุณสเตฟานี่ เองสินะคะ แล้วพวกมาสเตอร์ล่ะ ฉันคิดถึงมาสเตอร์มากเลยอยากอยู่กับพวกท่าน อยากได้ความรู้และความรักของพวกท่าน เธอรู้ไหมว่าพวกท่านอยู่ที่ไหน”
เพราะร่างข้างหน้าหลงพวกชิโระกับโซระจนโงหัวไม่ขึ้นต่างหาก!
แต่ว่าคงจะเป็นเพราะพวกเขาเล่นเกมความรู้ชนะเธอด้วย แถมยังมีความรู้อีกมากมายเก็บเอาไว้ถึงทำให้ร่างตรงหน้าติดมาสเตอร์เป็นพิเศษ สเต็ฟคิด
“ตอนนี้พวกเขาอยู่ในห้องครัวคะ แล้วก็บอกมาว่าไม่ให้เข้าไปยุ่งตอนทำงานอยู่โดยเฉพาะจิบริลและฉัน”
“งั้นหรือค่ะ น่าเสียดาย ว่าแต่คุณคงไม่มีอะไรทำสินะคะ เลยมาหาฉัน”
เด็กสาวนาม จิบริล เอ่ยถามแล้วก็ต้องหัวเราะน้อยๆ เพราะคำถามที่ถามออกไปนั้นไปจี้ใจดำร่างตรงหน้าอย่างจัง แต่ก็เอาเถอะเพราะทั้งสองคนนั้นสั่งฉันมาแล้วว่าจนกว่าพระอาทิตย์จะตกห้ามให้สเตฟานี่ ดอลล่าเข้าไปในห้องเด็ดขาด จิบริลทบทวนคำสั่งของชิโระกับโซระ
“แต่ก็พอดีเลยคะ ฉันว่ากำลังจะพาคุณไปเที่ยวอยู่พอดีเลย”
“แล้วพวกโซระล่ะ ไม่พาพวกเขาไปด้วยหรือ”
“ไม่เป็นไรคะ เพราะการเที่ยวในครั้งนี้ฉันได้ถามมาสเตอร์แล้วคะ พวกเขาบอกไม่ไปค่ะ”
หลังจากนั้นจิบริลก็พาสเตฟออกมาจากปราสาท แล้วออกเดินทางจากเอลเคียเมืองของเผ่ามนุษย์ไปที่เอเวนการ์ด เมืองของเผ่าเอลฟ์ พวกที่สามารถใช้เวทมนต์ได้ พวกเธอมีเพื่อนที่ไม่ใช่เพื่อน อยู่ที่นั้น
“ยินดีต้อนรับค่ะ คุณจิบริล คุณสเตฟานี่ โดระ เดินทางมาคงเหนื่อยมากสินะค่ะ”
หญิงสาวผมสีทองมีเอกลักษณ์คือหูทั้งสองข้างแหลมกว่าคนธรรมดา กล่าวทักทายด้วยรอยยิ้ม เธอมีชื่อว่า ฟีล นิลวาเลน เป็นคนของเผ่าเอลฟ์ ที่สามารถใช้เวทมนต์ได้และมีอายุยืนยาวกว่ามนุษย์ ด้านข้างเธอก็คือเด็กสาวผมสีม่วงเข้ม ดวงตาเย็นชาดุจน้ำแข็งถุกซ้อนไว้ในผ้าคลุมหน้าแผ่นบาง เธอไม่ได้มีหูแหลมเหมือนเอลฟ์แต่กลับเป็นแบบมนุษย์แทน เธอคือมนุษย์ผู้ที่เป็นเพื่อนกับเอลฟ์ เธอมีชื่อว่า คลามี่ เซล จากเผ่ามนุษย์นั้นเอง
“สวัสดีค่ะ คุณฟีล คุณคลามี่ ยินดีที่ได้พบเช่นกันค่ะเราไปสถานที่ต่อไปเลยดีไหม”
“เหอะ เจ้าพวกนั้น จะทำอะไรอีกแล้วสินะ”
“ห๊ะ! จะไปกันอีกแล้วหรือ นี่พวกเราพึ่งมาถึงเองนะค่ะ”
สเตฟานี่ โดระ ร้องอุทานออกมา เธอคงไม่รู้อะไรเลยสินะ คลามี่คิด สมแล้วที่เป็นหลานของราชาผู้โง่เขลา แต่ดูเหมือนว่าคนหลานจะโง่กว่านะที่ไม่รู้สึกถึงอะไรเลย เฮ้อ เธอล่ะเหนื่อยใจจริงๆ
หลังจากนั้นมนุษย์สองคน ฟลูเกลและเอลฟ์อีกอย่างละตน
“เราจะไปที่ไหนกันค่ะ”
“อืม นั้นสินะ งั้นเราก็ไปหาพวกเวอร์บีสกันเถอะ”
“หา ว่าไงนะคะ!!!” สเต็ฟร้องอุทานเสียงดัง แต่จะไม่ให้เธอตกใจได้อย่างไรเพราะจิบริลนั้นจะไปหาพวกที่เคยคิดจะแย่งเอลเคียมา ถึงแม้ว่าจะสามารถกู้คืนมาได้ด้วยพลังของพวกชิโระกับโซระแต่เธอก็ยังแค้นไม่หายอยู่ดี จิบริลที่รู้เรื่องนี้อยู่แล้วทำไมจะต้องไปหาด้วยล่ะ ไม่นานนักพวกเธอก็เดินทางมาถึงสถานทูตเอเวนการ์ดที่เป็นของพวกเวอร์บีส หรือเผ่าพันธุ์หูสัตว์ และเป็นเอ็กซี้ดลำดับที่สิบสี่
“คุณคลามี่กับฟีล พึ่งเคยมาที่นี่เป็นครั้งแรกสินะคะ”
“ชะ-“
คลามี่ยังไม่ทันได้พูดก็มีร่างที่คุ้นเคยร่างหนึ่งเดินมาทางพวกเขา เธอมีผมสีม่วงลูกพลัมมีหูสัตว์สอง ข้างและหางปุกปุยสีม่วงพลัมเช่นเดียวกับสีผมที่เป็นเอกลักษณ์ของเวอร์บีส ชุดที่เธอใส่เป็น ชุดกิมโมโน ธอกล่าวทักทายพวกเขาด้วยรอยยิ้ม
แต่....
“สวัสดีคะ คุณเอลเคีย เอลฟ์ แล้วก็คุณฟลูเกลด้วย”
สเตฟานี่ โดระ คิดว่านั้นเป็นรอยยิ้มที่เสแสร้งซะมากกว่า!
ทุกคนกล่าวทักทายเธอคนนั้น เธอมีชื่อว่า ฮัตสึเสะ อิซึนะ สาวน้อยหูสัตว์ที่ชิโระและโซระโปรดปรานจนแทบจะกลืนกิน(?)นั้นเอง อิซึนะก้าวมาข้างหน้าเอียงคอเล็กน้อยหางของเธอแกว่งไปมา
“วันนี้เราจะไปที่เอลเคียกับพวกคุณด้วยเพื่อร่วมงาน—“ อิซึนะพูดยังไม่จบประโยคมือของจิบริลก็เอื้อมมาปิดปากไว้ก่อน และสเต็ฟที่ไม่รู้ว่ามีงานอะไรจึงถามขึ้น
“ที่เอลเคียจะมีงานอะไรงั้นหรือคะ ทำไมฉันถึงไม่รู้เรื่องนี้”
“อะ เอ่อ คือว่า”
“วันนี้ช่วงเย็นจะมีงานสังสรรค์”
จิบริลกระวนกระวายเพราะไม่รู้ว่าจะตอบอะไร คลามี่ก็เลยเอ่ยเสริมขึ้นมาช่วยได้ทันอย่างหวุดหวิด เป็นเพราะอิซึนะซังเผลอเปิดปากพูดออกมา จิบริลหันไปมองอิซึนะ ตอนนี้เธอกำลังก้มหน้าสำนึกผิดอยู่ข้างๆฟีล ดูน่ารักน่าชัง ถ้าพวกมาสเตอร์มาเห็นภาพนี้คงจะใช้สิ่งที่เรียกว่าโทรศัพท์บันทึกภาพไว้สินะ จิบริลคิด นี่ก็ใกล้จะถึงเวลาที่พระอาทิตย์จะตกแล้ว ควรเดินทางกลับเอลเคียตอนนี้เลยละกัน
“นี่ก็จะค่ำแล้ว เราขอเชิญพวกคุณเดินทางไปยังเอลเคียเลยค่ะ”
ไม่นานนักพวกเธอก็เดินทางมาถึงเอลเคีย จิบริลสั่งให้สเต็ฟไปรอที่ห้องของตัวเอง ก่อนที่จะพาพวกคลามี่ไปที่ห้องพัก ใกล้จะหมดวันแล้วสินะ สเตฟานี่ โดระคิด ไม่มีใครจำวันเกิดของเธอได้เลยซักคน หลังจากที่ท่านปู่จากไปก็ไม่มีใครจัดเลี้ยงฉลองในวันเกิดของเธออีกเลย ก็นะปีนี้คงต้องฉลองคนเดียว
อีกแล้ว....
ไม่นานนัก สเตฟานี่ โดระ ก็เผลอหลับไป แต่ถ้าเธอสังเกตตรงบานประตูซักหน่อย เธอจะได้เห็นดวงตาหลายคู่จ้องมองมาทางเธอพร้อมกับเสียงกระซิบกระซาบของเจ้าของดวงตาเหล่านั้น
“พี่ เธอหลับไปแล้ว”
“ปล่อยให้เธอหลับไปซักพักละกัน”
“ก็มาสเตอร์อยากทำสิ่งนั้น ช้าเองแหละค่ะ”
เสียงกระซิบค่อยๆเบาลงและหายไปเมื่อ สเตฟานี่ โดระ ละเมอออกมา “ท่านปู่” ภานในความฝันเธอเห็นท่านปู่กำลังตัดเค้กวันเกิดให้เธอที่ยังป็นเด็กน้อย คนรับใช้ที่ยืนอยู่รอบๆยิ้มอย่างมีความสุข
สเตฟานี่ตัวน้อยกระโดดโลดเต้นไปมา เมื่อท่านปู่หัดเค้กเสร็จก็เอามาให้เธอเป็นคนแรก เขาลูบหัวของเธอแล้วเอ่ยขึ้น “สเตฟานี่ ของปู่ เมื่อเจ้าเติบโตขึ้น ข้านั้นก็อาจจะเสียชีวิตไปแล้วก็อาจจะไม่มีผู้ใดมาฉลองวันเกิดร่วมกับเจ้าอีก แต่ข้านั้นก็เชื่อว่าซักวันจะมีคนที่มาฉลองวันเกิดกับเจ้าแทนที่ปู่ได้ ฉะนั้นแล้วจนกว่าจะได้พบคนผู้นั้นจงอย่าท้อแท้ เจ้าอาจจะหลั่งน้ำตาเพราะความเดียวดาย แต่เชื่อข้าสิ เมื่อวันนั้นมาถึงคนที่จะมีความสุขที่สุดก็คือเจ้า หลานรักของปู่”
“สเต็ฟ ตื่นสิ สเต็ฟ” สเตฟานี่ โดระ ลืมตาขึ้น เธอพบกับดวงตาหลากหลายคู่จ้องมองมาที่เธอด้วยสี หน้าหลายแบบ
“อะ พวกคุณทำไมถึงมาอยู่ที่ห้องของฉันคะ”
“สเต็ฟมาเร็วเข้า ใกล้จะถึงเวลาแล้ว”
“เวลาอะไรคะ เหวอ!” สเตฟานี่ที่ไปเข้าใจเรื่องที่พวกโซระพูดถึงเอ่ยถามแต่ก็ไม่ได้รับคำตอบ แต่กลับถูกดึงให้ไปที่ห้องโถงของปราสาท ทั้งห้องมืดสนิทดูวังเวงชอบกล คงจะไม่มีตัวอะไรโผล่ออกมาหรอกนะคะ เธอคิด แต่ทันใดนั้น!
พรึบ!!
“สุขสันต์วันเกิดนะ สเตฟานี่ โดระ!!”
“สุขสันต์วันเกิด!”
ไฟที่ดับอยู่ก็เปิดขึ้นพร้อมด้วยประชาชนหลายคนยืนอยู่ในห้องตะโกนสุขสันต์วันเกิดให้กับสเตฟานี่ เธอตกใจมาก แต่เพียงไม่นานความตกใจก็เปลี่ยนไปเป็นความปลื้มปิติ
“นี่ มันอะไรกันคะ ฮึก ทุกคนทำสิ่งนี้เพื่อฉันงั้นหรอ ฮึก” สเตฟานี่มองรอบกาย หยาดน้ำตาหลายสายไหลรินอาบแก้ม เธอเห็นประชาชนเอลเคีย ฟีล คลามี่ และอิซึนะ ยืนอยู่ด้านหน้าของเธอทุกคนต่างหยิบของขวัญส่งให้เธอ เธอก็รับมาด้วยความยินดี แต่…
“แล้ว พวกคุณโซระล่ะคะ” เธอเอ่ยถามจิบริล เธอชี้ไปที่มุมหนึ่งของห้อง ทั้งสองเดินไปดูก็พบพวกชิโระกับโซระกอดเข่าตัวสั่นอยู่มุมห้อง
“ขอบคุณมากคะ”
พวกเขาเงยหน้าขึ้นเมื่อสเตฟานี่ โดระ เอ่ยออกมา “ฉัน ขอขอบคุณทั้งสองที่จัดงานวันเกิดครั้งนี้ให้กับฉัน จิบริลเล่าทุกอย่างให้ฉันฟังหมดแล้วคะ” ทั้งสองไม่ได้พูดอะไรเพียงแค่ส่งกระดาษแผ่นหนึ่งมาให้กับเธอ “จากราชาคนก่อนน่ะ” โซระเอ่ยออกมา ไม่รอช้า สเตฟานี่ ก็รีบเปิดอ่านทันที
ถึง ราชาองค์ใหม่
นี้เป็นจดหมายจากข้า ราชาที่ได้รับฉายาว่าราชาผู้โง่เขลา แต่ถึงกระนั้นข้าก็มีหลานสาวตัวน้อยที่ซุกซนอยู่ ทุกปีข้าจะจัดงานวันเกิดให้เธอ เด็กคนนั้นก็จะชอบกระโดดไปมาดูน่ารักน่าเอ็นดู แต่ถ้าเจ้าได้อ่านจดหมายฉบับนี้ก็แสดงว่าข้านั้นได้จากโลกนี้ไปนานแล้ว และจะไม่มีผู้ใดจะมาฉลองวันเกิดให้หลานสาวตัวน้อยของข้าอีก เธอคงจะทุกข์ทรมานกับความเหงา และคงต้องร่ำไห้อยู่ทุกครั้งที่วันเกิดของเธอมาถึงเป็นแน่ ฉะนั้นข้า ราชาผู้โง่เขลา คนนี้ จะขอร้องให้ราชาองค์ใหม่ช่วยจัดงานวันเกิดให้กับสเตฟานี่ตัวน้อยของข้าด้วย แค่ครั้งเดียวก็ยังดี แค่ให้เด็กน้อยคนนั้นมีความสุขปู่ คนนี้ย่อมยอมทำทุกอย่างอยู่แล้ว และหลังจากที่ท่านจัดงานเสร็จสิ้นช่วยเอาจดหมายฉบับนี้ให้หลานสาวของข้าอ่านด้วย ช่วยบอกเธอด้วยว่าปู่คนนี้ถึงแม้จะไม่ได้อยู่บนโลกใบนี้ ไม่ได้อยู่เคียงข้างหลานเหมือนที่ผ่านมา ไม่สามารถซับหยาดน้ำตาของหลานได้อีก แต่ถึงกระนั้นปู่ก็ยังจะเป็นปู่
ของหลาน และจะคอยเฝ้ามองหลานตลอดไป
จาก ราชาผู้โง่เขลา
เมื่อสเตฟานี่ อ่านจดหมายจบ น้ำตาของเธอก็ไหลรินอีกครั้ง “ท่านปู่ ขอบคุณมากคะ ขอบคุณสำหรับทุกสิ่งทุกอย่าง ท่านทำเพื่อหนูมามากเหลือเกิน ขอบคุณมากจริงๆ” เธอเอ่ยคำขอบคุณมากมาย โซระ ชิโระและจิบริล ก็ไม่สามารถพูดอะไรได้เพราะเรื่องนี้แม้แต่พระเจ้าก็ไม่สามารถเข้ามายุ่งเกี่ยวได้ เรื่อง ความผูกพันธ์ของคนในครอบครัว พวกเขาไม่สามารถเข้าไม่ยุ่งได้จริงๆ สเตฟานี่ โดระ ร่ำไห้อยู่แบบนั้น เฝ้าคิดถึงบุคคลอันเป็นที่รักที่ได้จากไปแล้ว ในค่ำคืนที่สว่างไสว เด็กสาวเฝ้าคิดถึง อีกสามคนได้แต่มองดู ที่เหลือไม่ได้รับรู้เหตุการณ์
“เราจะเรียกค่ำคืนนี้ว่าอะไรดีน้า” เสียงหนึ่งดังออกมาจากความมืดยามราตรี เขาผู้คอยเฝ้ามองเหตุการณ์ต่างๆอยู่ตลอดเวลา ร่างนั้นเดินออกมาจากความมืด “ในฐานะที่ผมเป็น’พระเจ้า’ของโลกใบนี้” เด็กชายที่เรียกตนเองว่าพระเจ้ายิ้ม ไม่นานเขาจึงเอ่ยออกมาว่า…
“ขอตั้งชื่อค่ำคืนนี้ว่า ค่ำคืนแห่งความสุขที่หวนคืน”
ผลงานอื่นๆ ของ deerzzxdell ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ deerzzxdell
"กิจกรรม 2FTY"
(แจ้งลบ)ขอแจ้งก่อนว่าเนื่องจากแป้งงานรัดตัว เลยให้ผู้ช่วยมาคอมเม้นแทนค่ะ แต่แป้งก็อ่านเรื่องนี้ไปแล้วนะคะ เอาล่ะ! เรามาดูกันค่ะว่าคุณผู้ช่วยว่าอย่างไรบ้าง กิจกรรม Fan FiC BirthDay To You [Fic NGNL]ค่ำคืนเเห่งความสุขที่หวนคืน สวัสดีครับ นี่ไม่ใช่แอดมินแป้งโกกิแต่เป็นผู้ช่วยนะครับ กระผมมีนามว่าFourty-eightหรือนาย48 เนื่องจาก แอดมินแป้งโกกิงานล้นมือ วัน ... อ่านเพิ่มเติม
ขอแจ้งก่อนว่าเนื่องจากแป้งงานรัดตัว เลยให้ผู้ช่วยมาคอมเม้นแทนค่ะ แต่แป้งก็อ่านเรื่องนี้ไปแล้วนะคะ เอาล่ะ! เรามาดูกันค่ะว่าคุณผู้ช่วยว่าอย่างไรบ้าง กิจกรรม Fan FiC BirthDay To You [Fic NGNL]ค่ำคืนเเห่งความสุขที่หวนคืน สวัสดีครับ นี่ไม่ใช่แอดมินแป้งโกกิแต่เป็นผู้ช่วยนะครับ กระผมมีนามว่าFourty-eightหรือนาย48 เนื่องจาก แอดมินแป้งโกกิงานล้นมือ วันนี้ผมจึงมาช่วยแอดมินแป้งโกกิคอมเมนท์ให้ในกิจกรรม 2FTY ขอรับ ว่าแล้ว...เราก็มาเริ่มกันเลยดีกว่า คะแนนจะแบ่งออกป็น 5 ส่วน ดังนี้ครับ 1. ตรงกับหัวข้อกิจกรรม - ตัวเนื้อเรื่องโดยรวมอาจจะสั้นไปนิด(ก็เรื่องสั้นนี่นา) แต่จุดเชื่อมโยงของทั้งหมดเริ่มจากการที่สเตฟานี่เดินทางผ่านหลายสถานที่ จนสุดท้ายไคลแม็กซ์ก็ไปจบที่การเซอร์ไพรส์วันเกิดของเจ้าตัว อาจจะดูเรียบง่ายไปสักหน่อยแต่โดยรวมถือว่าตรงประเด็นครับ ส่วนนี้ให้ 10 / 10 คะแนน 2. การดำเนินเรื่อง 10 คะแนน เข้าใจครับว่าเป็นเรื่องสั้น แต่ทว่าบางจุดถือว่ารวบรัดจนเกินไป จะลองยกตัวอย่างให้นะครับ - จุดแรกคือสเตฟานี่ถูกชิโระกับโซระไล่ออกมาจากห้องครัว ตรงจุดนี้น่าจะมีบทสนทนาบ้างว่าสาเหตุที่ไล่ออกมาคืออะไร? จากที่อ่านตอนแรกคล้ายกับว่าสเตฟานี่เพิ่งเข้าไปในห้องครัวนี่นา แล้วทำไมจู่ๆ ก็โดนไล่ออกมา ดูตัดฉากเร็วไปหน่อยครับ (เข้าใจครับว่าสองคนนั่นรู้ว่าวันนี้เป็นวันเกิดของสเตฟานี่แล้วทำเป็นแกล้งลืม แต่น่าจะมีบทสนทนาอะไรแทรกสักเล็กน้อย เพื่อให้ดูสมเหตุสมผลสักหน่อย) - จุดที่สองคือตั้งแต่สเตฟานี่ไปเมืองเอล์ฟ จนสุดท้ายกลับไปที่เอลเคีย ผมว่าดูรวบรัดอีกเช่นกัน สมควรจะมีคำบรรยายเกี่ยวกับสถานที่ต่างๆ ให้ผู้อ่านได้เข้าใจบ้างครับว่า เมืองหรือสถานที่นี้มีฉากประกอบอะไรบ้าง ไม่ต้องละเอียดยิบมากก็ได้ครับ เอาพอคร่าวๆ ให้ผู้อ่านคิดตามถึงความแตกต่างของสถานที่พองาม จะได้เข้าถึงเนื้อเรื่องยิ่งขึ้น ส่วนนี้ให้ 6/ 10 คะแนน 3. การบรรยายและการใช้ภาษา 10 คะแนน - ก่อนอื่นเลยครับที่สำคัญ คุณHermesเริ่มต้นย่อหน้าโดยไม่มีการกดtabให้เป็นย่อหน้าเลย ถึงแม้จะเว้นบรรทัดให้อ่านง่าย(จุดนี้เป็นเรื่องที่ดีครับ) แต่การที่ไม่มีการtabตรงการเริ่มต้นย่อหน้าทำให้ดูไม่สวยงามและลายตาครับ ลองยกตัวอย่างนะครับ สเตฟานี่ โดระเดินมาที่หน้าประตูห้องหนังสือส่วนตัวของเธอ แต่ยังไม่ได้เปิดเข้าไป ประตูก็เปิดออกก่อนตามมาด้วยร่างของเด็กสาวผมสีชมพูอ่อนมีตาสีอำพัน สวมชุดแฟนตาซี ด้านหลังของเธอปรากฏปีกสีขาวและดำ แต่ที่แปลกไปกว่านั้นก็คือ เธอสามารถลอยได้!แต่เรื่องนี้เป็นเรื่องปกติของสเตฟานี่ โดระ เพราะว่าบุคคลที่อยู่ด้านหน้าเธอเป็นคนของเผ่าเอ็กซี้ดลำดับที่ 6 ซึ่งก็คือ เผ่าปีกสวรรค์ หรือ ฟลูเกล ผู้ที่เปรียบเหมือนยมทูตนั้นเอง แต่ว่าถึงจะน่าเกรงขามขนาดไหนเธอก็ไม่กลัว เพราะนิสัยของร่างข้างหน้า อันนี้คือต้นแบบ แต่ถ้าทำแบบนี้... สเตฟานี่ โดระเดินมาที่หน้าประตูห้องหนังสือส่วนตัวของเธอ แต่ยังไม่ได้เปิดเข้าไป ประตูก็เปิดออกก่อนตามมาด้วยร่างของเด็กสาวผมสีชมพูอ่อนมีตาสีอำพัน สวมชุดแฟนตาซี ด้านหลังของเธอปรากฏปีกสีขาวและดำ แต่ที่แปลกไปกว่านั้นก็คือ เธอสามารถลอยได้!แต่เรื่องนี้เป็นเรื่องปกติของสเตฟานี่ โดระ เพราะว่าบุคคลที่อยู่ด้านหน้าเธอเป็นคนของเผ่าเอ็กซี้ดลำดับที่ 6 ซึ่งก็คือ เผ่าปีกสวรรค์ หรือ ฟลูเกล ผู้ที่เปรียบเหมือนยมทูตนั้นเอง แต่ว่าถึงจะน่าเกรงขามขนาดไหนเธอก็ไม่กลัว เพราะนิสัยของร่างข้างหน้า จะทำให้ผู้อ่านเข้าใจได้ง่ายครับว่า เราเริ่มต้นย่อหน้าตรงไหนและจบช่วงนั้นตรงไหน และยังมีบางช่วงที่บทสทนากดtab เว้นไม่อยู่ในระนาบเดียวกัน ควรจะเริ่มต้นแต่ละแถวให้อยู่ในแนวเดียวกันครับ จะทำให้ดูสวยงามและเป็นระเบียบมากกว่านี้ - หลายจุดที่มีตัวละครออกมามากกว่าสองตัว(ก็เกือบทั้งเรื่องเลยนะครับ) แต่ส่วนใหญ่ในบทสนทนาผมจะเข้าใจเพียงแค่ช่วงที่สเตฟานี่เป็นผู้พูดเท่านั้น เพราะคุณHermesใส่บทบรรยายในช่วงนั้นเข้าไว้ ทว่าอีกสองหรือสามบทสนทนาก่อนหน้ากลับโผล่มาโดดๆ ไม่มีการบรรยายว่าใครเป็นผู้พูด ซึ่งตรงนี้ผมสับสนมากว่าใครที่ผู้กล่าวกันแน่ -ควรใส่ท่าทางกายวิภาคหรือสีหน้าท่าทางของตัวละครบ้างครับ ตัวละครของเราจะได้ดูมีมิติ ไม่ใช่แต่พูดเฉยๆ หรือพูดแล้วคิด ลองยกตัวอย่างในฉากที่สเตฟานี่พบกับจิบริลนะครับ... แต่ว่าคงจะเป็นเพราะพวกเขาเล่นเกมความรู้ชนะเธอด้วย แถมยังมีความรู้อีกมากมายเก็บเอาไว้ถึงทำให้ร่างตรงหน้าติดมาสเตอร์เป็นพิเศษ สเต็ฟคิด “ตอนนี้พวกเขาอยู่ในห้องครัวคะ แล้วก็บอกมาว่าไม่ให้เข้าไปยุ่งตอนทำงานอยู่โดยเฉพาะจิบริลและฉัน” “งั้นหรือค่ะ น่าเสียดาย ว่าแต่คุณคงไม่มีอะไรทำสินะคะ เลยมาหาฉัน” ลองเปลี่ยนเป็น แต่คงจะเป็นเพราะว่าพวกเขาเล่นเกมความรู้ชนะเธอด้วย ซ้ำยังมีความรู้อีกมากมายเก็บเอาไว้ ถึงทำให้ร่างเบื้องหน้าติดมาสเตอร์เป็นพิเศษ คิดได้เช่นนี้สเตฟานี่ก็ส่ายศีรษะแล้วกล่าวด้วยสีหน้าเรียบเฉยว่า “ตอนนี้พวกเขาอยู่ในห้องครัวค่ะ แล้วก็บอกว่าไม่ให้เข้าไปยุ่งตอนที่กำลังทำงานอยู่ โดยเฉพาะจิบริลและฉัน” “งั้นหรือคะ น่าเสียดายจัง ว่าแต่ว่าคุณคงไม่มีอะไรทำสินะคะเลยมาหาฉัน” เด็กสาวนามจิบริลถามกลับไปด้วยสีหน้าเจ้าเล่ห์ - การบรรยายบางช่วงยังดูไม่ค่อยลื่นไหลนะครับ อ่านแล้วบางครั้งต้องอ่านย้อนทวนอยู่บางจุด - คำผิดยังมีบ้างพอสมควร และการออกเสียง คะ หรือ ค่ะ ยังใช้ผิดอยู่นะครับ ยกตัวอย่างเช่น “ยินดีต้อนรับค่ะ คุณจิบริล คุณสเตฟานี่ โดระ เดินทางมาคงเหนื่อยมากสินะค่ะ” ตรงนี้ต้องพูดว่า “ยินดีต้อนรับค่ะคุณจิบริลและคุณสเตฟานี่ โดระ เดินทางมาคงเหนื่อยมากสินะคะ” หรือ... “แต่ก็พอดีเลยคะ ฉันว่ากำลังจะพาคุณไปเที่ยวอยู่พอดีเลย” ต้องพูดว่า “แต่ก็พอดีเลยค่ะ ฉันว่ากำลังจะพาคุณไปเที่ยวอยู่พอดีเลย” นอกจากนี้คำว่านั่น หรือ นั้น ก็มีผิดนะครับ - และอีกหลายคำยกตัวอย่างเช่น ชุดกิมโมโน เขียนว่า ชุดกิโมโน ครับ ห๊ะ!! เข้าใจครับว่าเป็นคำอุทาน แต่ถ้าใช้คำว่า หา!! หรือ หืม!! จะดูลื่นไหลกว่าครับ ซักหน่อย ซักพัก ควรใช้คำว่า สักหน่อย สักพัก ครับ - และสุดท้ายครับ การเว้นวรรคหลังเครื่องหมายไม้ยมก ควรกดเว้นวรรคหนึ่งเคาะ เพื่อความเป็นระเบียบและจะได้ชินมือครับ เพราะโดยปกติแล้วมาตรฐานการส่งต้นฉบับของสำนักพิมพ์ จะต้องเว้นวรรคหลังเครื่องหมายต่างๆ หนึ่งครั้ง ฝึกไว้เผื่อมีโอกาสได้ส่งสำนักพิมพ์ครับ ส่วนนี้ให้ 5 / 10 คะแนน 4. ตัวละคร 10 คะแนน - เรื่องนี้เขียนถึงตัวสเตฟานี่ได้เด่นมากครับ แต่ตัวอื่นกลับไม่ค่อยชัดเจนสักเท่าไหร่ การเข้าร่วมเนื้อเรื่องของตัวละครแต่ละตัวมีส่วนร่วมกับเนื้อเรื่องน้อยมาก คล้ายผ่านมาแล้วก็ผ่านไป เพียงแค่มีส่วนแค่พาสเตฟานี่พบเจอหรือร่วมเดินทางไปเฉยๆ ซึ่งถ้าเทียบกับการเป็นเรื่องสั้นถือว่ามีตัวละครออกมาเยอะมากครับ แต่ไม่มีใครที่สามารถทำให้ผมจดจำได้แม้แต่ตัวเดียว กลับเป็นจดหมายจากพระราชาผู้โง่เขลาในตอนท้ายที่ผมรู้สึกว่าน่าประทับใจมากกว่าตัวละครที่มาในก่อนหน้าเสียด้วยซ้ำ ส่วนนี้ให้ 6 / 10 คะแนน 5. โดนใจแอดมิน 10 คะแนน - นาย48ไม่เคยผ่านตากับเรื่อง NGNL ครับ แต่จากการอ่านฟิคเรื่องนี้ทำให้ผมพอจะรู้จักตัวละครในเรื่องนี้หลายตัวเลยทีเดียว ซ้ำยังทำให้ผมอยากไปดูเรื่องนี้เสียแล้วสิ เพราะอยากจะทราบความสัมพันธ์ของตัวละครที่คุณHernesกล่าวถึงในนิยายและตัวเนื้อเรื่องจริงว่าน่าสนุกสักแค่ไหน ส่วนนี้ให้ 9/ 10 คะแนน คะแนนทั้งหมดจากแอดมินได้ 31 / 50 คะแนน คะแนนตรงส่วนนี้ยังไม่ใช่คะแนนตัดสินนะครับ ยังมีคะแนนจากผลโหวตอีกส่วน นี่เป็นเพียงความคิดเห็นของบุคคลเพียงคนเดียวเท่านั้น อย่าเพิ่งท้อถอยครับ หมั่นขัดเกลาตามลำดับ จะต้องพัฒนาผลงานออกมาได้ดียิ่งขึ้นต่อมาเรื่อยๆ ครับ นาย48เป็นกำลังใจให้นะครับ ขอบคุณมากครับ By : Fourty-eight (นาย48) อ่านน้อยลง
แป้งโกกิ | 20 ต.ค. 57
1
0
"กิจกรรม 2FTY"
(แจ้งลบ)ขอแจ้งก่อนว่าเนื่องจากแป้งงานรัดตัว เลยให้ผู้ช่วยมาคอมเม้นแทนค่ะ แต่แป้งก็อ่านเรื่องนี้ไปแล้วนะคะ เอาล่ะ! เรามาดูกันค่ะว่าคุณผู้ช่วยว่าอย่างไรบ้าง กิจกรรม Fan FiC BirthDay To You [Fic NGNL]ค่ำคืนเเห่งความสุขที่หวนคืน สวัสดีครับ นี่ไม่ใช่แอดมินแป้งโกกิแต่เป็นผู้ช่วยนะครับ กระผมมีนามว่าFourty-eightหรือนาย48 เนื่องจาก แอดมินแป้งโกกิงานล้นมือ วัน ... อ่านเพิ่มเติม
ขอแจ้งก่อนว่าเนื่องจากแป้งงานรัดตัว เลยให้ผู้ช่วยมาคอมเม้นแทนค่ะ แต่แป้งก็อ่านเรื่องนี้ไปแล้วนะคะ เอาล่ะ! เรามาดูกันค่ะว่าคุณผู้ช่วยว่าอย่างไรบ้าง กิจกรรม Fan FiC BirthDay To You [Fic NGNL]ค่ำคืนเเห่งความสุขที่หวนคืน สวัสดีครับ นี่ไม่ใช่แอดมินแป้งโกกิแต่เป็นผู้ช่วยนะครับ กระผมมีนามว่าFourty-eightหรือนาย48 เนื่องจาก แอดมินแป้งโกกิงานล้นมือ วันนี้ผมจึงมาช่วยแอดมินแป้งโกกิคอมเมนท์ให้ในกิจกรรม 2FTY ขอรับ ว่าแล้ว...เราก็มาเริ่มกันเลยดีกว่า คะแนนจะแบ่งออกป็น 5 ส่วน ดังนี้ครับ 1. ตรงกับหัวข้อกิจกรรม - ตัวเนื้อเรื่องโดยรวมอาจจะสั้นไปนิด(ก็เรื่องสั้นนี่นา) แต่จุดเชื่อมโยงของทั้งหมดเริ่มจากการที่สเตฟานี่เดินทางผ่านหลายสถานที่ จนสุดท้ายไคลแม็กซ์ก็ไปจบที่การเซอร์ไพรส์วันเกิดของเจ้าตัว อาจจะดูเรียบง่ายไปสักหน่อยแต่โดยรวมถือว่าตรงประเด็นครับ ส่วนนี้ให้ 10 / 10 คะแนน 2. การดำเนินเรื่อง 10 คะแนน เข้าใจครับว่าเป็นเรื่องสั้น แต่ทว่าบางจุดถือว่ารวบรัดจนเกินไป จะลองยกตัวอย่างให้นะครับ - จุดแรกคือสเตฟานี่ถูกชิโระกับโซระไล่ออกมาจากห้องครัว ตรงจุดนี้น่าจะมีบทสนทนาบ้างว่าสาเหตุที่ไล่ออกมาคืออะไร? จากที่อ่านตอนแรกคล้ายกับว่าสเตฟานี่เพิ่งเข้าไปในห้องครัวนี่นา แล้วทำไมจู่ๆ ก็โดนไล่ออกมา ดูตัดฉากเร็วไปหน่อยครับ (เข้าใจครับว่าสองคนนั่นรู้ว่าวันนี้เป็นวันเกิดของสเตฟานี่แล้วทำเป็นแกล้งลืม แต่น่าจะมีบทสนทนาอะไรแทรกสักเล็กน้อย เพื่อให้ดูสมเหตุสมผลสักหน่อย) - จุดที่สองคือตั้งแต่สเตฟานี่ไปเมืองเอล์ฟ จนสุดท้ายกลับไปที่เอลเคีย ผมว่าดูรวบรัดอีกเช่นกัน สมควรจะมีคำบรรยายเกี่ยวกับสถานที่ต่างๆ ให้ผู้อ่านได้เข้าใจบ้างครับว่า เมืองหรือสถานที่นี้มีฉากประกอบอะไรบ้าง ไม่ต้องละเอียดยิบมากก็ได้ครับ เอาพอคร่าวๆ ให้ผู้อ่านคิดตามถึงความแตกต่างของสถานที่พองาม จะได้เข้าถึงเนื้อเรื่องยิ่งขึ้น ส่วนนี้ให้ 6/ 10 คะแนน 3. การบรรยายและการใช้ภาษา 10 คะแนน - ก่อนอื่นเลยครับที่สำคัญ คุณHermesเริ่มต้นย่อหน้าโดยไม่มีการกดtabให้เป็นย่อหน้าเลย ถึงแม้จะเว้นบรรทัดให้อ่านง่าย(จุดนี้เป็นเรื่องที่ดีครับ) แต่การที่ไม่มีการtabตรงการเริ่มต้นย่อหน้าทำให้ดูไม่สวยงามและลายตาครับ ลองยกตัวอย่างนะครับ สเตฟานี่ โดระเดินมาที่หน้าประตูห้องหนังสือส่วนตัวของเธอ แต่ยังไม่ได้เปิดเข้าไป ประตูก็เปิดออกก่อนตามมาด้วยร่างของเด็กสาวผมสีชมพูอ่อนมีตาสีอำพัน สวมชุดแฟนตาซี ด้านหลังของเธอปรากฏปีกสีขาวและดำ แต่ที่แปลกไปกว่านั้นก็คือ เธอสามารถลอยได้!แต่เรื่องนี้เป็นเรื่องปกติของสเตฟานี่ โดระ เพราะว่าบุคคลที่อยู่ด้านหน้าเธอเป็นคนของเผ่าเอ็กซี้ดลำดับที่ 6 ซึ่งก็คือ เผ่าปีกสวรรค์ หรือ ฟลูเกล ผู้ที่เปรียบเหมือนยมทูตนั้นเอง แต่ว่าถึงจะน่าเกรงขามขนาดไหนเธอก็ไม่กลัว เพราะนิสัยของร่างข้างหน้า อันนี้คือต้นแบบ แต่ถ้าทำแบบนี้... สเตฟานี่ โดระเดินมาที่หน้าประตูห้องหนังสือส่วนตัวของเธอ แต่ยังไม่ได้เปิดเข้าไป ประตูก็เปิดออกก่อนตามมาด้วยร่างของเด็กสาวผมสีชมพูอ่อนมีตาสีอำพัน สวมชุดแฟนตาซี ด้านหลังของเธอปรากฏปีกสีขาวและดำ แต่ที่แปลกไปกว่านั้นก็คือ เธอสามารถลอยได้!แต่เรื่องนี้เป็นเรื่องปกติของสเตฟานี่ โดระ เพราะว่าบุคคลที่อยู่ด้านหน้าเธอเป็นคนของเผ่าเอ็กซี้ดลำดับที่ 6 ซึ่งก็คือ เผ่าปีกสวรรค์ หรือ ฟลูเกล ผู้ที่เปรียบเหมือนยมทูตนั้นเอง แต่ว่าถึงจะน่าเกรงขามขนาดไหนเธอก็ไม่กลัว เพราะนิสัยของร่างข้างหน้า จะทำให้ผู้อ่านเข้าใจได้ง่ายครับว่า เราเริ่มต้นย่อหน้าตรงไหนและจบช่วงนั้นตรงไหน และยังมีบางช่วงที่บทสทนากดtab เว้นไม่อยู่ในระนาบเดียวกัน ควรจะเริ่มต้นแต่ละแถวให้อยู่ในแนวเดียวกันครับ จะทำให้ดูสวยงามและเป็นระเบียบมากกว่านี้ - หลายจุดที่มีตัวละครออกมามากกว่าสองตัว(ก็เกือบทั้งเรื่องเลยนะครับ) แต่ส่วนใหญ่ในบทสนทนาผมจะเข้าใจเพียงแค่ช่วงที่สเตฟานี่เป็นผู้พูดเท่านั้น เพราะคุณHermesใส่บทบรรยายในช่วงนั้นเข้าไว้ ทว่าอีกสองหรือสามบทสนทนาก่อนหน้ากลับโผล่มาโดดๆ ไม่มีการบรรยายว่าใครเป็นผู้พูด ซึ่งตรงนี้ผมสับสนมากว่าใครที่ผู้กล่าวกันแน่ -ควรใส่ท่าทางกายวิภาคหรือสีหน้าท่าทางของตัวละครบ้างครับ ตัวละครของเราจะได้ดูมีมิติ ไม่ใช่แต่พูดเฉยๆ หรือพูดแล้วคิด ลองยกตัวอย่างในฉากที่สเตฟานี่พบกับจิบริลนะครับ... แต่ว่าคงจะเป็นเพราะพวกเขาเล่นเกมความรู้ชนะเธอด้วย แถมยังมีความรู้อีกมากมายเก็บเอาไว้ถึงทำให้ร่างตรงหน้าติดมาสเตอร์เป็นพิเศษ สเต็ฟคิด “ตอนนี้พวกเขาอยู่ในห้องครัวคะ แล้วก็บอกมาว่าไม่ให้เข้าไปยุ่งตอนทำงานอยู่โดยเฉพาะจิบริลและฉัน” “งั้นหรือค่ะ น่าเสียดาย ว่าแต่คุณคงไม่มีอะไรทำสินะคะ เลยมาหาฉัน” ลองเปลี่ยนเป็น แต่คงจะเป็นเพราะว่าพวกเขาเล่นเกมความรู้ชนะเธอด้วย ซ้ำยังมีความรู้อีกมากมายเก็บเอาไว้ ถึงทำให้ร่างเบื้องหน้าติดมาสเตอร์เป็นพิเศษ คิดได้เช่นนี้สเตฟานี่ก็ส่ายศีรษะแล้วกล่าวด้วยสีหน้าเรียบเฉยว่า “ตอนนี้พวกเขาอยู่ในห้องครัวค่ะ แล้วก็บอกว่าไม่ให้เข้าไปยุ่งตอนที่กำลังทำงานอยู่ โดยเฉพาะจิบริลและฉัน” “งั้นหรือคะ น่าเสียดายจัง ว่าแต่ว่าคุณคงไม่มีอะไรทำสินะคะเลยมาหาฉัน” เด็กสาวนามจิบริลถามกลับไปด้วยสีหน้าเจ้าเล่ห์ - การบรรยายบางช่วงยังดูไม่ค่อยลื่นไหลนะครับ อ่านแล้วบางครั้งต้องอ่านย้อนทวนอยู่บางจุด - คำผิดยังมีบ้างพอสมควร และการออกเสียง คะ หรือ ค่ะ ยังใช้ผิดอยู่นะครับ ยกตัวอย่างเช่น “ยินดีต้อนรับค่ะ คุณจิบริล คุณสเตฟานี่ โดระ เดินทางมาคงเหนื่อยมากสินะค่ะ” ตรงนี้ต้องพูดว่า “ยินดีต้อนรับค่ะคุณจิบริลและคุณสเตฟานี่ โดระ เดินทางมาคงเหนื่อยมากสินะคะ” หรือ... “แต่ก็พอดีเลยคะ ฉันว่ากำลังจะพาคุณไปเที่ยวอยู่พอดีเลย” ต้องพูดว่า “แต่ก็พอดีเลยค่ะ ฉันว่ากำลังจะพาคุณไปเที่ยวอยู่พอดีเลย” นอกจากนี้คำว่านั่น หรือ นั้น ก็มีผิดนะครับ - และอีกหลายคำยกตัวอย่างเช่น ชุดกิมโมโน เขียนว่า ชุดกิโมโน ครับ ห๊ะ!! เข้าใจครับว่าเป็นคำอุทาน แต่ถ้าใช้คำว่า หา!! หรือ หืม!! จะดูลื่นไหลกว่าครับ ซักหน่อย ซักพัก ควรใช้คำว่า สักหน่อย สักพัก ครับ - และสุดท้ายครับ การเว้นวรรคหลังเครื่องหมายไม้ยมก ควรกดเว้นวรรคหนึ่งเคาะ เพื่อความเป็นระเบียบและจะได้ชินมือครับ เพราะโดยปกติแล้วมาตรฐานการส่งต้นฉบับของสำนักพิมพ์ จะต้องเว้นวรรคหลังเครื่องหมายต่างๆ หนึ่งครั้ง ฝึกไว้เผื่อมีโอกาสได้ส่งสำนักพิมพ์ครับ ส่วนนี้ให้ 5 / 10 คะแนน 4. ตัวละคร 10 คะแนน - เรื่องนี้เขียนถึงตัวสเตฟานี่ได้เด่นมากครับ แต่ตัวอื่นกลับไม่ค่อยชัดเจนสักเท่าไหร่ การเข้าร่วมเนื้อเรื่องของตัวละครแต่ละตัวมีส่วนร่วมกับเนื้อเรื่องน้อยมาก คล้ายผ่านมาแล้วก็ผ่านไป เพียงแค่มีส่วนแค่พาสเตฟานี่พบเจอหรือร่วมเดินทางไปเฉยๆ ซึ่งถ้าเทียบกับการเป็นเรื่องสั้นถือว่ามีตัวละครออกมาเยอะมากครับ แต่ไม่มีใครที่สามารถทำให้ผมจดจำได้แม้แต่ตัวเดียว กลับเป็นจดหมายจากพระราชาผู้โง่เขลาในตอนท้ายที่ผมรู้สึกว่าน่าประทับใจมากกว่าตัวละครที่มาในก่อนหน้าเสียด้วยซ้ำ ส่วนนี้ให้ 6 / 10 คะแนน 5. โดนใจแอดมิน 10 คะแนน - นาย48ไม่เคยผ่านตากับเรื่อง NGNL ครับ แต่จากการอ่านฟิคเรื่องนี้ทำให้ผมพอจะรู้จักตัวละครในเรื่องนี้หลายตัวเลยทีเดียว ซ้ำยังทำให้ผมอยากไปดูเรื่องนี้เสียแล้วสิ เพราะอยากจะทราบความสัมพันธ์ของตัวละครที่คุณHernesกล่าวถึงในนิยายและตัวเนื้อเรื่องจริงว่าน่าสนุกสักแค่ไหน ส่วนนี้ให้ 9/ 10 คะแนน คะแนนทั้งหมดจากแอดมินได้ 31 / 50 คะแนน คะแนนตรงส่วนนี้ยังไม่ใช่คะแนนตัดสินนะครับ ยังมีคะแนนจากผลโหวตอีกส่วน นี่เป็นเพียงความคิดเห็นของบุคคลเพียงคนเดียวเท่านั้น อย่าเพิ่งท้อถอยครับ หมั่นขัดเกลาตามลำดับ จะต้องพัฒนาผลงานออกมาได้ดียิ่งขึ้นต่อมาเรื่อยๆ ครับ นาย48เป็นกำลังใจให้นะครับ ขอบคุณมากครับ By : Fourty-eight (นาย48) อ่านน้อยลง
แป้งโกกิ | 20 ต.ค. 57
1
0
ความคิดเห็น